ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ แนวรับทีมชาติประเทศญี่ปุ่นของอาร์เซนอล บอกว่าเขาไม่สามารถจะภูมิใจอะไรได้กับผลงานของทีมในฟุตบอลโลก แม้ว่าจะเอาชนะทีมอย่างสเปน และเยอรมันได้ก็ตาม

โทยามิสุ ผิดหวังกับการแข่งในครั้งนี้

ประเทศญี่ปุ่นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งที่ 4 จากการพ่ายแพ้ การดวลจุดลูกโทษโครเอเชีย ในขณะที่ โทมิยาสุ เริ่มต้นฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในฐานะตัวสำรอง ก่อนที่เกม กับโครเอเชีย จะลงเล่น เป็นตัวจริง และเขาวิจารณ์ ผลงานตัวเองว่า “หายนะ”

“แน่ๆผมผิดหวัง กับผลงานที่ออกมา ผลงานของผม มันหายนะมากมายในวันนี้ ผมขออภัยทีมด้วย ผมต้องการอย่างมากมายสำหรับในการ

ที่จะช่วยทีม แต่ก็มันไม่มากพอสำหรับการทำสิ่งนั้นได้ เราไม่เหมาะสมกับ การเป็นผู้ชนะในวันนี้ เราใกล้เคียงมากมายกับการ ทำได้ตามเป้าหมายของเรา

แต่พวกเขาทำได้ดีกว่าเรา”

“ผมไม่สามารถ ภาคภูมิใจ อะไรได้ ผมไม่พึงพอใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น นี่คือฟุตบอล และเราต้องดีกว่านี้ อีกมาก เพื่อจะเป็นผู้ชนะ กับทีมที่แข็งแกร่งกว่า”

“ตอนนี้ผมยังไม่ทราบว่าผมจะกลับไปยังอาร์เซนอลหรือไม่ หวังว่าผมจะได้พักสักหน่อย ผมต้องการเวลาสำหรับในการที่จะลืมเรื่องฟุตบอล ผมต้องการเวลา”

อาร์เซนอลจะกลับมาลงเล่นเกมแรกภายหลังพักเบรกฟุตบอลโลก กับการพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 26 ธ.ค. 2022

โทมิยาสุ ประวัติ

ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ปี 1998 ที่ ฟุคุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆ 100 เปอร์เซนต์ ถนัดเท้าข้างขวา ส่วนสูง 188 ซม.

หรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว ประจำการในตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันสังกัดอยู่กับ ปืนใหญ่ ได้สวมเสื้อเบอร์ 18

โทยามิสุ กับเส้นทางค้าแข้ง

โทมิยาสุ เกิดที่ ฟุคุโอกะ เขาเติบโตมากับความฝัน อยากเป็นนักว่ายน้ำ เหมือนกับพี่สาวของตัวเอง แต่จากนั้นตัวก็ต้องมาเจอกับจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต

เพราะว่า เขา เป็นเด็กที่มี พรสวรรค์ในเรื่องของ การวิ่งไว มันเลยทำให้ เขาได้รับคำแนะนำ จากคุณครูที่โรงเรียนซึ่งมีชื่อว่า คันจิ ซึจิ ก่อนจะรับหน้าที่อาสาช่วยปลุกปั้น

และให้คำแนะนำต่างๆ ในการเป็นนักฟุตบอล ด้วยทักษะที่โดดเด่นโดยเฉพาะเรื่องความรวดเร็วและความคล่องตัว บวกกับ พละกำลังที่แข็งแกร่งนั่นก็

ทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่ บาร์ซ่า ยื่นข้อเสนอเข้ามาทาบทามเชิญไปทดสอบฝีเท้ากันเลยทีเดียว

แต่ด้วยปัญหาหลายๆ อย่างด้านความเป็นอยู่ที่ สเปน ซึ่งก็ทำให้โอกาสดังกล่าวไม่เกิดขึ้น จากนั้น

ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ในอคาเดมี่ของ เอวิสป้า ฟุคุโอกะ เดิมที ไอ้หนูคนนี้ ประจำการในตำแหน่งกองกลาง ก่อนจะโยกมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก

แบบเต็มตัว ในเวลาต่อมา แถมยังมี ช่วงเวลา ที่ได้สวมปลอกแขน เป็นกัปตันทีมด้วย เขาโชว์ฟอร์ม ได้โดดเด่น เข้าตากรรมการ ในรายการ เจเอฟเอ พรีเมียร์ คัพ พร้อมทั้ง

ติดทีมยอดเยี่ยม ของทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่ทางต้นสังกัด เอวิสป้า ฟุคุโอกะ จะตกรางวัลอย่างงามด้วยสัญญาระดับอาชีพ

เขา ได้ประเดิมสนามเป็นตัวจริงเกมแรกในสีเสื้อ เอวิสป้า ฟุคุโอกะ นัดที่แพ้ มาชิดะ เซลเวีย 0-2 ในศึก เอ็มเพอเรอร์ คัพ รอบ 3 ส่วนในเวทีระดับ เจ ลีก 2

ไอ้เด็กเลือดปลาดิบคนนี้ได้เปิดตัวในเกมที่ชนะ เอฟซี โตเกียว 2-1 กับในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ ตลอดเวลา

3 ปี กับ เอวิสป้า ฟุคุโอกะ เจ้าตัวได้โอกาสลงเล่นไปทั้งหมด 54 เกม ยิงได้ 1 ประตูซึ่งหนึ่งลูกที่ว่านั้นเกิดขึ้นในเกมลีกที่ชนะ โรอาสโซ่ คุมาโมโต้ 2-1

โทยามิสุ กับประสบการณ์ในยุโรป

โทมิยาสุ ได้มีโอกาสเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศชาติอย่างที่เขาใฝ่ฝัน เมื่อ แซงต์-ทรุยด็อง ทีมระดับ

โปร ลีก ของ ประเทศเบลเยี่ยม ได้ทาบทามตัวไปร่วมทีมช่วงต้นปี 2018 แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะว่าเจ้าตัวต้องใช้เวลา

นานกว่า 3 เดือนในการสลัดปัญหาอาการบาดเจ็บและ เรียกความฟิต กว่าจะได้โอกาสประเดิมสนามในเกมกับ รอยัล อันท์เวิร์ป และนั่นก็คือเกมเดียวเท่านั้นที่ เขา

ได้ลงเล่น ในฤดูกาล 2017-18 พอถึงฤดูกาล 2018-19 เขา ได้ก้าวขึ้น มามีบทบาทสำคัญ เป็นผู้เล่นตัวจริง ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ได้ลงเล่น ไปทั้งหมด 40 เกม ยิงได้

1 ประตูซึ่งประตูดังกล่าวนั้นเรียกว่าเป็นประตูที่น่าจดจำลูกหนึ่งในชีวิตเลยก็เป็นได้

ทีมชาติ

เขา ได้มีโอกาสเป็นตัวแทนรับใช้ชาติครั้งแรกตอนเมื่อปี 2014 กับ ทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ก่อนค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาชุด ยู-20 และ ยู-23 ตามลำดับ ได้ลงเล่นไป

76 นัด ยิงได้ 1 ประตู ผ่านการเล่นรายการระดับทัวร์นาเมนต์มาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น มอนไทกุ ทัวร์นาเมนต์, เอเอฟซี แชมเปี้ยนชิพ กับ ชุด ยู-16 กับ ยู-19 และ ฟุตบอลโลก ยู-20 รวมไปถึง ตูลง ทัวร์นาเมนต์

และ โอลิมปิก เกมส์ ปี 2021 ถ้าจะพูดถึงผลงานเด่นๆ ก็คงเป็น เอเอฟซี ยู-19 เมื่อปี 2016 เพราะ เขานับเป็นส่วนสำคัญที่พา ญี่ปุ่น เถลิงบัลลังก์ได้สำเร็จจากการชนะจุดโทษ ซาอุดิอาระเบีย 5-3

และที่สำคัญคือเจ้า โทมิยาสุ มีส่วนอย่างมากกับการพาทีมเก็บคลีนชีทได้ทุกนัดตลอดทัวร์นาเมนต์ ส่วนประสบการณ์กับทัพ “ซามูไรบลูส์” ชุดใหญ่ เขาได้โอกาสติดธงครั้งแรกในรายการ

คิริน คัพ ก่อนจะได้เปิดตัวในเกมที่เจอกับ ปานามา นับเป็นดาวรุ่งคนแรกที่ติดทีมชุดใหญ่นับตั้งแต่ เรียว มิยาอิชิ นับตั้งแต่นั้น เขาก็เริ่มกลายเป็นกำลังสำคัญของ ทีมชาติญี่ปุ่น แบบเต็มตัว